วันที่นำเข้าข้อมูล 17 ก.พ. 2566
ฮ่องกงต้องการแรงงานต่างชาติจำนวนมาก
ฮ่องกง แม้จะเป็นเมืองขนาดเล็กและมีพลเมืองเพียงแค่ ๗.๒๙ ล้านคน แต่เป็นเมืองที่มีกำลังซื้อสูงมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ในโลก โดยในปี ๒๕๖๕ ฮ่องกงได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีอัตราค่าครองชีพสูงเป็นอันดับ ๑ ของโลก โดยมีนครนิวยอร์กในสหรัฐอเมริกาเป็นอันดับที่ ๒ และนครเจนีวาในสวิตเซอร์แลนด์เป็นอับดับที่ ๓ (ข้อมูลจากสำนักข่าว open access government)
พลเมืองฮ่องกงมีรายได้โดยเฉลี่ยอยู่ที่ ๑๘,๔๐๐ – ๑๘,๗๐๐ ฮ่องกงดอลลาร์ต่อเดือน (ประมาณ ๗๕,๐๐๐ – ๗๖,๖๗๐ บาท) ฮ่องกงจึงเป็นทางเลือกลำดับต้น ๆ สำหรับแรงงานจากประเทศต่าง ๆ
เนื่องจากการปิดเมืองเป็นระยะเวลานานเกือบ ๓ ปีเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-๑๙ ส่งผลให้มีการย้ายถิ่นฐานของประชากรทั้งชาวฮ่องกงและชาวต่างชาติออกจากเมืองเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตามตั้งแต่เดือนมกราคม ๒๕๖๖ ที่ผ่านมา ฮ่องกงได้เริ่มเปิดเมืองอีกครั้งหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-๑๙ คลี่คลายลง โดยรัฐบาลเร่งผลักดันการฟื้นฟูเศรษฐกิจทำให้เกิดการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด ส่งผลให้เกิดปัญหาขาดแคลนแรงงานอย่างหนักในเกือบทุกสาขาอาชีพ และทุกระดับ ภาครัฐจึงได้ทบทวนข้อจำกัดของการนำเข้าแรงงานจากต่างประเทศ และพยายามผ่อนปรนมาตรการต่าง ๆ ให้ยืดหยุ่นมากขึ้น ในขณะที่หลายฝ่ายพยายามผลักดันให้รัฐบาลลดระยะเวลาที่ใช้ในการอนุมัติตามโครงการ Supplementary Labour Scheme (SLS) ให้สั้นลง
Supplementary Labour Scheme (SLS) คือ โครงการที่จัดตั้งขึ้นเป็นพิเศษโดยอนุญาตให้ผู้ประกอบการและนายจ้างในฮ่องกงสามารถยื่นขออนุมัตินำเข้าแรงงานจากต่างประเทศในระดับช่างหรือต่ำกว่า จากหลายสาขาอาชีพที่ฮ่องกงขาดแคลน ไม่ว่าจะเป็นอาชีพที่เกี่ยวกับการก่อสร้าง แรงงานฝีมือ พ่อครัว ช่างซ่อมบำรุง ฯลฯ โดยค่าตอบแทนจะต้องทัดเทียมกับแรงงานในท้องถิ่น และในปัจจุบันได้มีการอนุมัตินำเข้าแรงงานผ่านโครงการนี้แล้วมากกว่า ๕,๐๐๐ ราย
สำหรับขั้นตอนการขออนุญาตนำเข้าแรงงานผ่านโครงการ SLS มีดังต่อไปนี้
อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายยังเห็นว่าระยะเวลาในการขออนุมัติผ่านโครงการ SLS นั้นนานเกินไป เนื่องจากขั้นตอนทั้งหมดในการอนุมัตินำเข้าแรงงานจากต่างประเทศใช้เวลาโดยรวมประมาณ ๗ – ๘ เดือน จึงได้มีการริเริ่มโครงการ Fast- Track plan
Fast-Track Plan เป็นโครงการใหม่ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเข้าแรงงานฉุกเฉินในกรณีเร่งด่วนพิเศษ สำหรับอาชีพผู้บริบาลผู้สูงอายุเท่านั้น เนื่องจากมีความขาดแคลนแรงงานสูงสุดถึงร้อยละ ๒๐ และกระทบต่อสวัสดิภาพของผู้สูงอายุในเมือง โดยโครงการนี้คาดว่าจะประกาศใช้ภายในเดือนมิถุนายน ๒๕๖๖ และกำหนดโควตานำเข้าแรงงานในสาขาอาชีพนี้ ๗,๐๐๐ ราย สำหรับระยะเวลาในการขออนุมัติอาจจะลดลงเหลือ ๒ เดือนโดยจะตัดขั้นตอนของการอนุมัติผ่านคณะกรรมการ LAB ออกไป อีกทั้งยังเปิดทางให้สถานบริบาลผู้สูงอายุทั้งจากภาครัฐและเอกชนสามารถนำเข้าแรงงานได้ จากเดิมที่อนุญาตเฉพาะภาคเอกชนเท่านั้น ส่วนอัตราผลตอบแทนผู้บริบาลผู้สูงอายุโดยเฉลี่ยของฮ่องกงในปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ ๒๐,๐๐๐ ฮ่องกงดอลลาร์ / เดือน (หรือประมาณ ๘๒,๐๐๐ บาท)
(ภาพจาก : www.caritas.org.hk)
(ภาพจาก : Pine Care Group)
เนื่องจากประเทศไทยมีการฝึกอบรมบุคลากรในสาขาบริบาลผู้สูงอายุที่ได้คุณภาพ ประกอบกับโครงการ Fast-Track Plan ของฮ่องกงที่เอื้อต่อการนำเข้าแรงงานจึงถือเป็นโอกาสของแรงงานไทยที่จะมีโอกาสเข้ามาทำงานในฮ่องกงได้ง่ายขึ้น
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานได้นำคณะประกอบด้วยผู้บริหารกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายจาตุรนต์ ไชยะคำ กงสุลใหญ่ ณ เมืองฮ่องกงและผู้อำนวยการสำนักงานแรงงาน ณ เมืองฮ่องกง เข้าร่วมหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานฮ่องกง Mr. Sun Yuk Han และกับประธานและรองประธานสมาพันธ์นายจ้างฮ่องกง (Employers’ Federation of Hong Kong) เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการนำเข้าแรงงานจากไทย ซึ่งทุกฝ่ายให้การตอบรับและร่วมมือเป็นอย่างดี โดยสถานกงสุลใหญ่และสำนักแรงงาน ณ เมืองฮ่องกง จะผลักดันและติดตามต่อไป
แหล่งที่มาของข้อมูล
– Census and Statistics Department (http://www.censtatd.gov.hk)
– www.info.gov.hk (LCQ17 : Importation of Labour)
– www.immd.gov.hk/eng/services/visas/imported_workers.html
– https://www.openaccessgovernment.org/
– https://www.matichonweekly.com/publicize/article_646565
– https://today.line.me/th/v2/article/j7oN8Jr?utm_source=lineshare
– https://www.caritas.org.hk/en
วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 09.00-17.00 น. (ยกเว้นวันหยุดราชการ)
สำหรับการขอรับรองเอกสาร การยื่นและรับเอกสาร 09.30-12.30 น. |